รถเข็นไฟฟ้าเอนนอนได้ AD-103 Plus
รถเข็นไฟฟ้าเอนนอนได้ AD-103 Plus ถูกออกแบบมาให้การกระจายน้ำหนักของผู้ใช้งานเป็นไปหลักกลศาสตร์ พร้อมทั้งวัสดุในการผลิตชั้นดี ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงถึง 120 กก. จึงทำให้ ผู้ใช้งานสามารถอุ่นใจในการใช้งานรถเข็นไฟ้ารุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
โครงสร้างผลิตจากวัสดุชั้นดี ทนทาน แข็งแรง
รถเข็นไฟฟ้าเอนนอนได้ AD-103 Plus ผลิตจาก โครงสร้างคาร์บอนสตีล เคลือบด้วย ระบบ Powder Coating ทำให้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงและเหนียว ทนต่อกาารรับน้ำหนักของผู้ใช้งานที่มากได้ สามารถไปได้ในทุกเส้นทาง อีกทั้งด้วยการเคลือบด้วย Powder Coating ยังป้องกันการเกิดสนิมจากความชื้นและการใช้งานในสภาวะต่างๆ ได้อีกด้วย ผู้ใช้งานจึงสามารถอุ่นใจในความแข็งแรงของรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ได้อย่างเต็มที่
คุณลักษณะทั่วไป
- ปรับเอนนอน 180 องศา (ปรับแมนนวล)
- ใช้งานได้ 2 ระบบ : ไฟฟ้าและผู้ช่วยเข็น
- ออกแบบให้ขนาดเหมาะสมกับผู้ใช้งาน สามารถเข้าผ่านประตูบ้าน และประตูห้องน้ำได้
- ขนาดกว้าง 45 ซม. ลึก 43.5 ซม. หนา 5 ซม.
- เบาะรองนั่งของรถเข็นไฟฟปรับนอนได้สูงจากพื้น 50 ซม.
- ล้อหลังขนาด 19 นิ้ว อย่างหนา ไม่กระแทกมั่นใจด้วยความนุ่มสบายในทุกการเดินทาง
- มอเตอร์ทรงพลัง สามารถขึ้นทางชันได้ ปรับความเร็วการใช้งานได้ถึง 5 ระดับ ในอัตราความเร็วที่ไม่มากจนเกินไป
- สามารถเลือกข้างติด Smart Joystick ได้ทั้งซ้ายและขวา ตามความถนัดเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน
- เบาะรองนั่งหนาพิเศษ ถอดซักได้ ระบายอากาศได้ดี
- ที่วางแขนสามารถยกขึ้นได้ทั้งสองข้าง สะดวกสบาย ผู้ใช้งานสามารถขึ้นลงจากทางด้านข้างได้
- เสียงสัญญาณเตือน เมื่อบังคับรถเข็นไฟฟ้าไปด้านหลัง เพื่อให้สัญญาณเพื่อร่วมทาง และผู้ข้างเคียง
ระยะเวลารับประกัน
Adler Drive เป็นผู้นำเข้ารถเข็นไฟฟ้า มีบริการหลังการขาย มีศูนย์ให้บริการลูกค้าที่เมืองไทย มีอะไหล่ไว้บริการลูกค้า ไม่ต้องรออะไหล่นาน อยู่ในระยะรับประกันจะไม่มีค่าใช้จ่าย
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อรถเข็นวีลแชร์ (Wheelchair) ชื่อเรียกเหมือนกันแต่มีหลายแบบ โดยสามารถแยกออกเป็น 2 ชนิด ใหญ่ ๆ คือ วีลแชร์แบบแมนนวล และวีลแชร์แบบไฟฟ้า1. วีลแชร์แบบแมนนวล ขับเคลื่อนด้วยมือ ผู้ใช้จะต้องออกแรงจากกำลังแขนโดยผลักดันล้อด้วยมือ "ตนเองขับเคลื่อน" หรือผู้ดูแลเข็นจากด้านหลัง วีลแชร์แบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีกำลังแขนมากพอที่จะผลักล้อให้หมุนได้ แต่หากมีกำลังแขนน้อยก็มีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ดูแลเข็นไปนั่นเอง2. วีลแชร์แบบไฟฟ้า ขับเคลื่อนโดยแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถเคลื่อนที่เองได้ด้วยการใช้แผงควบคุม โดยวีลแชร์แบบนี้เหมาะกับทั้งผู้ที่มีกำลังแขนและไม่มีกำลังแขน เนื่องจากไม่ได้ใช้แรงคนในการขับเคลื่อน ขนาดของล้อ1. วงล้อขนาดเล็ก รถเข็นที่มีล้อขนาดเล็กมักจะใช้ในผู้ที่ไม่มีกำลังแขนในการขับเคลื่อนด้วยตนเอง ดังนั้นล้อชนิดนี้จึงต้องให้ผู้ดูแลเป็นผู้เข็นจากทางด้านหลัง หรือเป็นรถเข็นชนิดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ข้อดีก็คือเวลาเคลื่อนย้ายหรือจัดเก็บก็สามารถทำได้ง่ายกว่าล้อขนาดใหญ่ ทั้งประหยัดพื้นที่จัดเก็บและน้ำหนักเบายกได้สบายๆเลยค่ะ2. วงล้อขนาดใหญ่ รถเข็นที่มีวงล้อขนาดใหญ่มักจะเหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้ที่มีกำลังแขนมาก สามารถขับเคลื่อนด้วยตนเองได้ อย่างที่ทราบกันดีว่าล้อขนาดใหญ่จะมีน้ำหนักมากกว่าล้อเล็ก ทำให้รถเข็นชนิดนี้มีหนักมากนั่นเอง วัสดุและโครงสร้างวีลแชร์ควรเลือกวีลแชร์ที่มีความแข็งแรงทนทาน แต่บางครั้งโครงสร้างเหล็กอาจจะทำให้รถเข็นมีน้ำหนักมาก ดังนั้นในปัจจุบันจึงนิยมใช้วัสดุอลูมิเนียมซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานและน้ำหนักเบาสำหรับวีลแชร์ที่ใช้แรงคนในการขับเคลื่อนขนาดของวีลแชร์เลือกขนาดที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป สำหรับที่นั่งควรมีช่องว่างข้างลำตัว ซึ่งอยู่ระหว่างตัวรถเข็นกับผู้ใช้งานประมาณข้างละ 1 นิ้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกอึดอัดเคลื่อนย้ายตัวเข้าและออกรถเข็นได้สะดวกส่วนประกอบของรถเข็นที่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายมี 3 ส่วน ได้แก่ เบรก ที่พักเท้า และที่พักแขน1.ที่พักแขนที่ถอดออกได้ ยกขึ้นได้ หรือที่พักแขนโค้งตามรูปวงล้อหลังจะช่วยให้การเคลื่อนย้ายตัวเข้าออกรถเข็นทางด้านข้างสะดวกขึ้น ผู้ใช้วีลแชร์ที่ใช้วิธีการเคลื่อนย้ายตัวในท่ายืน สามารถใช้ที่พักแขนช่วยในการทรงตัวในท่ายืน2. ที่พักเท้าสามารถพับเก็บ หรือกางออกไปทางด้านข้างได้ จะช่วยให้การเคลื่อนย้ายตัวได้ง่ายขึ้นทั้งแบบการยืน หรือการเคลื่อนย้ายขึ้น/ลง ระหว่างรถนั่งกับพื้น3. เบรก มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการตรึงเพื่อไม่ให้รถนั่งขยับไปมาขณะที่ทำการเคลื่อนย้ายตัวเข้าออกรถเข็น4. การเคลื่อนย้ายวีลแชร์และการจัดเก็บวีแชร์น้ำหนักเบาวีลแชร์ที่มีน้ำหนักเบาสามารถพับเก็บได้ จะช่วยให้ทำการเคลื่อนย้ายสะดวกและจัดเก็บได้ง่ายขึ้น อีกทั้งช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย ผู้ที่มีการเดินทางบ่อย ๆ มักจะชอบรถเข็นที่พับเก็บได้ในขนาดกะทัดรัด สามารถใส่รถยนต์ได้ ชนิดของแบตเตอรี่แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม1. น้ำหนักเบา : ธาตุลิเธียมที่นำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่นั้นเป็นโลหะอัลคาไลน์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก จึงทำให้ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเบาตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้รถเข็นพลังงานไฟฟ้าจึงใช้พลังงานในการขับเคลื่อนที่น้อยลงเพราะน้ำหนักที่น้อยลง เลยทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม2. อายุการใช้งานนาน : เนื่องจากการพัฒนามาหลายรุ่นของแบตเตอรี่ จึงทำให้แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนมีประจุไฟฟ้าที่สูงกว่า และเก็บประจุไฟฟ้าได้นาน (Low Discharge) กว่าแบตเตอรี่เจเนอเรชั่นอื่น ๆ ทั้งยังมีประสิทธิภาพในเรื่องของการชาร์จที่สูงกว่า และใช้งานได้นาน3. ให้พลังงานสูง, คงที่ และชาร์จได้เร็ว : ในส่วนประกอบของธาตุลิเธียมนั้นมีเซลล์ไฟฟ้าเคมี ที่สูงว่าเซลล์จากโลหะอื่น เป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่มีแรงดันไฟฟ้าที่สูงกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน จึงกลายเป็นต้นกำเนิดของขุมพลังงานที่มีความเสถียรที่สุด ถือเป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกที่จะเข้ามาแทนที่พลังงานเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ4. เป็นเซลล์แห้ง : แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออนนั้น ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ เช่น ของเหลว กรด หรือตะกั่ว จึงสามารถรับประกันเรื่องของความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้มากกว่าแบตเตอรี่แบบอื่น ๆ แบตเตอรี่กรดตะกั่วเป็นแบตเตอรี่ที่หาซื้อง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายแบตเตอรี่ทั่วไป ราคาของแบตเตอรี่ไม่แพง อายุการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ที่การดูแลรักษาและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละท่านเพื่อเป็นการป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมก่อนอายุการใช้งาน"ผู้ใช้งานควรใช้งานอย่างสม่ำเสมอ และหากไม่ค่อยได้งานให้นำแบตเตอรี่ออกมาชาร์จไฟอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นแบตเตอรี่ให้แบตเตอรี่ได้หมุนเวียนประจุ" มอเตอร์ ( Motor) เป็นตัวบอกกำลังการขับเคลื่อนของรถเข็น แบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ Brushed motor หมายถึง มอเตอร์ที่มีแปรงถ่านในการส่งพลังงาน มีส่วนที่สัมผัสกันระหว่างขั้วไฟฟ้าของโรเตอร์ (ส่วนที่หมุน-ขดลวด) กับสเตเตอร์ (ส่วนที่หยุด-แม่เหล็ก) ซึ่งโดยปรกติ มอเตอร์ DC ทั่วไปจะใช้ส่วนที่เป็นขดลวดเป็นโรเตอร์ ดังนั้นจึงต้องจ่ายไฟไปให้ขดลวดเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กมาผลักกับสเตเตอร์ให้เกิดการหมุน การจ่ายไฟไปยังขดลวดนั้นจึงต้องผ่านแปลงถ่านทำให้มอเตอร์ชนิดนี้เกิดความเสียดสีกันเกิดขึ้น มีอายุการใช้งาน Brushless motor หมายถึง มอเตอร์ที่ไม่มีแปรงถ่าน คือไม่มีส่วนที่สัมผัสกันระหว่างขั้วไฟฟ้าโรเตอร์และสเตเตอร์ (โดยสลับเอาส่วนที่เป็นแม่เหล็กมาเป็นโรเตอร์) ทำให้ไม่เกิดการเสียดสี กระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งสู่ขดลวดได้โดยตรง และเกิดเป็นแรงแม่เหล็กผลักขั้วแม่เหล็กตรงกลางให้หมุนนั่นเอง ซึ่งจะสามารถส่งพลังงานให้กับกลไกได้ประหยัดพลังงานกว่าและอายุการใช้งานนานมากกว่า เพราะไม่มีส่วนสัมผัสที่สึกหรอง่ายทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากและดูแลรักษาได้ง่าย ไม่มีไฟสปาร์ค อีกอย่างคือไม่ได้จ่ายไฟตลอดเวลาเหมือน blushed ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าและกินไฟน้อยกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน (Brushless motor) เมื่อทดลองขับจะรู้สึกได้ชัดเจนว่าเบา การเคลื่อนที่นุ่มและสมูท ไม่มีเสียง ไม่ดีเลย์ ไม่รู้สึกฝืดกระด้าง และรถเข็นมีน้ำหนักเบา พับเก็บได้ง่าย ขนาดพับเล็ก ซึ่งสามารถนำใส่ท้ายรถและนำขึ้นเครื่องบินได้รถเข็นไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์แบบ (Brushed motor) มักจะเป็นรถเข็นไฟฟ้าคันใหญ่ มีน้ำหนักมาก เหมาะกับการใช้งานที่บ้านทั่วไปไม่เน้นพกพาหรือเดินทางซึ่งจะไม่ค่อยพับเก็บบ่อยๆ คลิกสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติม ** สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม
เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.
ยินดีให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
Line ID: @adlerdrive
โทร : 094 308 4455
หมายเหตุ : ติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย
โทร. 094 308 4455
Adler Drive ศูนย์นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ และมีความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ด้านการเคลื่อนไหวร่างกายโดยมีรถเข็นไฟฟ้า (Electric Wheelchair) ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถวีลแชร์ไฟฟ้า รถเข็นผู้ป่วยไฟฟ้า รถเข็นคนพิการไฟฟ้า รถเข็นผู้สูงอายุไฟฟ้า รถเข็นไฟฟ้าพับได้ สำหรับผู้ป่วย ผู้สูงอายุ คนพิการ อันดับ 1 ในไทย แข็งแรงทนทาน ใช้งานง่าย รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าของเรามีหลากหลายรูปแบบที่สามารถเลือกให้เหมาะกับผู้ใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็น วีลแชร์ไฟฟ้าพับได้ รถเข็นไฟฟ้ารุ่นน้ำหนักเบา รถเข็นไฟฟ้าปรับเอนนอน รวมไปถึงรถเข็นไฟฟ้ารุ่นคลาสสิก ฟังก์ชัน 3 ระบบ คุณภาพมาตรฐาน มอก. พร้อมด้วยบริการติดตั้ง รับประกัน 3 ปี มีทีมซ่อมแซมตลอดอายุการใช้งาน และด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปี ที่ให้ลูกค้าไว้วางใจ สามารถดูสินค้าตัวจริงได้ที่ ศูนย์ Adler Drive ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย บริการติดตั้งที่บ้านพร้อมเจ้าหน้าที่แนะนำการใช้งานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จัดส่งฟรีทั่วประเทศ
>> กลับหน้าหมวดสินค้า <<