Last updated: 7 ก.พ. 2566 | 675 จำนวนผู้เข้าชม |
เชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวที่มีผู้ที่จำเป็นจะต้องใช้รถเข็นหรือวีลแชร์ โดยอาจจะเป็นผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุก็ตาม ย่อมจะต้องเลือกรถเข็นที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้มากที่สุด ทั้งในเรื่องของการเคลื่อนไหวตามปกติในระยะทางใกล้ๆ และรวมไปถึงการใช้งานนอกสถานที่ ในยามที่จะต้องเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสำหรับการใช้งานด้วยรถเข็นหรือวีลแชร์รุ่นทั่วไปอาจจะยังไม่สะดวกมากนัก
ตัวเลือกที่ดีกว่าคงจะเป็นรถเข็นไฟฟ้า ที่มีระบบเพื่ออำนวยความสะดวกแบบครบครัน โดยเฉพาะรถเข็นไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อการเดินทาง อย่างเช่น “รถเข็นไฟฟ้ารุ่น Flex Pro” ที่สามารถตอบโจทย์สำหรับทุกการเดินทางในทุกกิจกรรมของผู้ใช้งานได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น หากใครที่กำลังมองหาตัวเลือกรถเข็นไฟฟ้า ที่ตอบโจทย์ความคล่องตัววันนี้ทาง Adler Drive จะมารีวิวรถเข็นไฟฟ้ารุ่น Flex Pro รถเข็นไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในทุกกิจกรรม ไปได้ในทุกสถานที่ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเราจะมารีวิวและสรุปเรื่องของฟังก์ชันต่างๆ ของรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้กันแบบชัดเจน เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกรถเข็นไฟฟ้าให้กับคนที่คุณรักได้ใช้งานอย่างสะดวกที่สุด
มอเตอร์ทนทาน ให้พลังงานเต็มที่ กินไฟน้อย
เรื่องของมอเตอร์ สำหรับรถเข็นผู้ป่วยไฟฟ้ารุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์แบบ Brushless Motor ที่มีขนาด 180 วัตต์ ซึ่งมอเตอร์ชนิดนี้จะมีหลักการทำงานโดยจะไม่มีส่วนที่สัมผัสกันระหว่างขั้วไฟฟ้าโรเตอร์และสเตเตอร์ ทำให้เมื่อขณะที่มอเตอร์กำลังทำงานจะไม่เกิดการเสียดสีกัน จึงมีความปลอดภัยสูงกว่ามอเตอร์แบบอื่น เพราะจะลดความเสี่ยงของการเกิดประกายไฟขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้ยังให้กำลังไฟที่สูงเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีความประหยัดไฟอยู่ สามารถเคลื่อนตัวได้ด้วยความเร็วสูงสุด 8 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่ตัวรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ยังมีระบบปรับความเร็วได้ 5 ระดับอีกด้วย เมื่อทดสอบการใช้งานรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ในการเคลื่อนที่ปกติ สามารถใช้งานได้สูงสุด 15 – 18 กิโลเมตร หากเคลื่อนที่บนทางลาดชันจะอยู่ในมุมที่ชันสูงสุด 12 องศา เพราะด้านหลังของตัวรถเข็นมีล้อคู่ที่ช่วยพยุงการขับเคลื่อนบนทางลาดชันได้เป็นอย่างดีเลย ทำให้ไม่ว่าจะไปไหน ทำกิจกรรมอะไรผู้ใช้งานก็จะพาตนเองไปบนรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ได้อย่างมั่นใจ
แบตเตอรี่อึด รองรับระบบชาร์จไฟได้ 3 แบบ
ส่วนแบตเตอรี่ของรถเข็นไฟฟ้ารุ่น Flex Pro จะใช้เป็นแบตเตอรี่ประเภทลิเธียม 24 โวลต์ 6 แอมแปร์ จำนวน 2 ก้อน ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีความทนทานต่อการเสื่อมและมีน้ำหนักเบา ในการชาร์จสามารถนำแบตเตอรี่ออกมาชาร์จภายนอกรถเข็นได้แบบ Off-board charging และชาร์จได้ถึง 3 แบบด้วยกัน โดยการต่อสายชาร์จเข้ากับแบตเตอรี่ได้โดยตรง หรือเสียบชาร์จเข้ากับรีโมทควบคุม และยังสามารถใช้สายชาร์จชนิด USB Micro B ได้อีกด้วย ถือว่าสะดวกมาก ซึ่งหากใช้วิธีการชาร์จเข้ารีโมทควบคุมก็จะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง แต่ถือได้ว่าเป็นรถเข็นผู้ป่วยไฟฟ้าที่มีระบบรองรับการชาร์จไฟที่สะดวกและเหมาะกับการพกพาจริงๆ
ระบบควบคุมและระบบความปลอดภัยครบครัน
สำหรับระบบควบคุมของตัวรถเข็นผู้ป่วยรุ่นนี้จะมีระบบ Smart Remote control หรือรีโมทควบคุมแบบ Reliable Brushless Controller ที่สามารถปรับระดับความเร็วได้ 5 ระดับด้วยกัน มีสำหรับปุ่มแตรหรือเสียงเตือน และควบคุมทิศทางได้ 360 องศา แบบ Joy stick การควบคุมด้วยรีโมทถือได้ว่ามีการตอบสนองได้รวดเร็ว ในเรื่องของระบบความปลอดภัยจะมีระบบป้องกันขณะถอยหลัง มาพร้อมล้อกันหงาย ล้อหลักจะมีขนาดใหญ่ 12.5 นิ้ว แบบไม่ต้องเติมลมยาง และเข็มขัดนิรภัย 2 ระดับ คือ บริเวณเอว และเข่า มีระบบกันสั่นสะเทือนคือ Suspension System ทำให้การขับเคลื่อนของตัวรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ขับเคลื่อนได้นิ่งและสมูทมากขึ้น ระบบเบรกจะเป็นแบบแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic braking system) เมื่อทำการเบรกจะสามารถหยุดล้อได้ทันทีโดยที่ไม่กระตุกหรือกระชาก จึงเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้ดี โดยระบบควบคุมรถเข็นจะทำได้ 2 แบบ ทั้ง การควบคุมด้วยไฟฟ้าโดยผู้นั่ง และการควบคุมโดยผู้ช่วยเข็นรถเข็น และยังมีสติ๊กเกอร์สะท้อนแสงรอบตัวรถเข็น เพื่อการใช้งานในตอนกลางคืนให้อีกด้วย
ดีไซน์สปอร์ต สะดวกสบาย เหมาะกับการเดินทาง
ดีไซน์ต่างๆ ของตัวรถเข็นไฟฟ้ารุ่น Flex Pro นี้เริ่มกันที่เบาะนั่งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ กว้างถึง 45 เซนติเมตร นั่งสบาย และยาว 45 เซนติเมตร และพนักพิงสูง 50 เซนติเมตร มีฟูกที่ระบายอากาศนั่งได้สบายตัวและยังสามารถถอดซักทำความสะอาดได้ด้วย มาพร้อมกับที่พักแขนหุ้มเบาะเสริม ทำให้สามารถวางแขนได้สบายและยังสามารถพับเก็บได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานลุกจากรถถเข็นได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนของฐานพักเท้าจะอยู่ห่างจากพื้นประมาณ 8 เซนติเมตร วัสดุเป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกับโครงรถเข็น เวลาผู้ป่วยหรือผู้ใช้งานลุกก็ทำได้อย่างสะดวกโดยที่ไม่ถูกสิ่งกีดขวางบนพื้น ส่วนของด้านล่างรถเข็นยังมาพร้อมกับตะกร้าที่มีพื้นที่สำหรับเก็บของได้พอสมควร การพับเก็บรถเข็นรุ่นนี้ก็ทำได้ง่ายเพียง 3 ขั้นตอนคือ ดึงเดือย พับตัวรถ และพับล้อ ก็สามารถขนย้ายได้แล้ว โดยเมื่อพับแล้วรถเข็นผู้ป่วยไฟฟ้ารุ่นนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 79 x 60 x 37 เซนติเมตร เหมาะและสะดวกกับการพกพาในการเดินทาง
ข้อสังเกต เนื่องจากเป็นรถเข็นผู้ป่วยไฟฟ้า จึงจะต้องคอยสังเกตสถานะแบตเตอรี่ให้ดี และควรทำการชาร์จแบตให้เต็มก่อน จึงจะพร้อมใช้งาน เพราะหากแบตเตอรี่หมดอาจจะทำการบังคับตัวรถเข็นไฟฟ้าเองได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Email : sale.adlerdrive@gmail.com
Tel : 061-712-3773
Line: https://page.line.me/adlerdrive
15 ส.ค. 2567
12 มี.ค. 2567